การลุ้น 4 แชมป์ หรือ “Quadruple” อาจจะดูเหมือนเกินความฝัน แต่ตอนนี้ ลิเวอร์พูล กำลังอยู่ในเส้นทางแห่งความยิ่งใหญ่ กระนั้นการจะก้าวไปถึงจุดสูงสุดดังกล่าว ก็ไม่ใช่ว่าเส้นทางจะปูด้วยกลีบกุหลาบ เพราะ “หงส์แดง” จะต้องเจอขวากหนามครั้งสำคัญในช่วงเดือนเมษายนนี้
ลิเวอร์พูล งัดฟอร์มสุดยอดมาตั้งแต่ต้นปี 2022 เมื่อเดินหน้าเก็บชัยชนะในพรีเมียร์ลีก เป็นว่าเล่น ตามด้วยการคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ และผ่านทะลุเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ล่าสุดทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ บุกเฉือน น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ สุดหวิว 1-0 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกเอฟ เอ คัพ ทำให้พวกเขาทะลุเข้าไปตัดเชือกกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งมีลุ้น 3 แชมป์ในฤดูกาลนี้ซะด้วย
สำหรับช่วงที่เหลืออยู่ของเดือนมีนาคมนี้เป็นช่วงโปรแกรมฟีฟ่าเดย์ ฉะนั้นจะไม่มีเกมระดับสโมสรในยุโรปฟาดแข้งกันแน่นอน และถือเป็นการพักสภาพร่างกายของผู้เล่นหลายๆ คนที่ไม่ได้ติดทีมชาติด้วย
หลังจากจบเกม ufabet พักเบรกทีมชาติ งานนี้ ลิเวอร์พูล ต้องพบกับมหกรรมโปรแกรมหฤโหดต้อนรับเดือนที่ร้อนระอุที่สุดของทีม และยิ่งเห็นเกมที่ “เดอะ เร้ดส์” ต้องลงสนาม อุณหภูมิภายในรั้วแอนฟิลด์ยิ่งเพิ่มขึ้นแทบทะลุปรอท !
ลิเวอร์พูล ต้องลงสนาม 9 เกมในช่วงเวลา 28 วันแถมแต่ละเกมโคตรเข้มข้น และอาจจะมีความหมายถึงขั้นทำให้พวกเขาหลุดวงโคจรการได้ 4 แชมป์ หรือกรุยทางสู่ความสำเร็จที่เหนือคำบรรยายในฤดูกาลนี้
เมื่อเข้าสู่เดือนเมษามหาสงกรานต์ ลิเวอร์พูล ต้องเปิดรังแอนฟิลด์ต้อนรับ “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด ในเกมลีก ซึ่งพวกเขาต้องเจอกับงานหนักแน่นอนเนื่องจากคู่แข่งพยายามดิ้นรนหนีการตกชั้น
หลังจากได้พักกล้ามเนื้อได้แค่สามวัน “หงส์แดง” ต้องขึ้นนกเหล็กโบยบินไปเยือนดินแดนต้นตำรับขนมฝอยทอง ด้วยการเปิดศึกกับ เบนฟิก้า ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก
ตามด้วยการทำสงครามแย่งแชมป์ลีกกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ในวันที่ 10 เม.ย. ซึ่งหลายคนมองว่าแมตช์นี้มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นการบ่งชี้ว่าทีมไหนจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ประจำซีซั่นนี้เลยทีเดียว
ต่อไปก็ต้องเปิดเหย้าต้อนรับ “เหยี่ยวลิสบอน” ในเกมเลกสอง วันที่ 13 เม.ย. และหลังจากแค่สัปดาห์เดียวที่เพิ่งฟาดฟันกันในลีก ลิเวอร์พูล ต้องดวลกับ แมนฯ ซิตี้ อีกครั้ง ที่สนามเวมบลีย์ ในศึกเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ วันที่ 16 หรือ 17 เม.ย.
ไม่ว่าผลการแข่งขันเกมโทรฟี่ฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในโลกจะออกมาเป็นแบบไหน คล็อปป์ ยังต้องเจอกับงานหนักเมื่อต้องทำศึก “แดงเดือด” ปะทะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แอนฟิลด์ ในวันที่ 19 เม.ย. ซึ่งแน่นอนว่า “ผีแดง” ต้องการมาล้างตาหลังพวกเขาแพ้ยับไม่นับญาติคาโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 0-5 มาแล้ว
หลังเกมสุดหินกับคู่อริตลอดกาลจากนั้นอีกแค่ 5 วันก็ต้องมาฟาดฟันกับคู่อริร่วมเมืองนั่นก็คือการรับมือ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ที่ต้องการชัยชนะอย่างมาก เพื่อหลีกเลี่ยงการต้องร่วงไปเล่นในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ
ส่วนในแมตช์ต่อไปซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับผลงานในการดวลกับ เบนฟิก้า แต่ตามชื่อชั้น และผลงานในเวลานี้ “หงส์แดง” อาจจะผ่านได้ และมีความเป็นไปได้ว่าจะดวลกับ บาเยิร์น มิวนิค ในรอบตัดเชือก แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดแรก วันที่ 27 เม.ย. พร้อมตบท้ายเกมเดือนเม.ย. เยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด
เปิดโปรแกรมมหาโหดเดือนเมษายนของลิเวอร์พูลในการลุ้นคว้า 4 แชมป์ในฤดูกาลนี้
วันที่ 2 เม.ย. – วัตฟอร์ด (เหย้า) เกมพรีเมียร์ลีก
วันที่ 5 เม.ย. – เบนฟิก้า (เยือน) เกมแชมเปี้ยนส์ ลีก
วันที่ 10 เม.ย. – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เยือน) เกมพรีเมียร์ลีก
วันที่ 13 เม.ย. – เบนฟิก้า (เหย้า) เกมแชมเปี้ยนส์ ลีก
วันที่16/17 เม.ย. – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (สนามกลาง) เกมเอฟเอ คัพ
วันที่ 19 เม.ย. – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เหย้า) เกมพรีเมียร์ลีก
วันที่ 24 เม.ย. – เอฟเวอร์ตัน (เหย้า) เกมพรีเมียร์ลีก
วันที่ 27 เม.ย. – เกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก
วันที่ 30 เม.ย. – นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (เยือน) เกมพรีเมียร์ลีก
หมายเหตุ (*) กรณีที่ ลิเวอร์พุล ชนะ เบนฟิก้า ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย
ติดตามข่าวสารวงการฟุตบอลได้ที่ erbamadencilik.com